วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562

อาชีพสำคัญในอำเภอป่าบอน

                 อาชีพสำคัญในอำเภอป่าบอน

ประเด็นการศึกษา
อุปกรณ์
-เเกลลอน
-ไม้กวาดน้ำยาง
-ถัง
-มีดกรีดยาง
รายได้
1000-1500/วัน
*(หมายเหตุ:ขึ้นอยู่กับราคายางเเละจำนวนยาง)*
สถานที่ที่ใช่ในการทำอาชีพนี้
สวนยาง
จุดประสงค์
-เพื่อออกเเบบเเละสร้างเว็บบล็อกอาชีพสำคัญในอำเภอป่าบอน
-เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับอาชีพสำคัญในอำเภอป่าบอน
-อาชีพที่ใช้ศึกษาได้เเก่ อาชีพกรีดยาง
ขอบเขตในกาศึกษา
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้เเก่ คนในชุมชน
วิธีการดำเนินการ
1.กำหนดหัวข้อโครงงาน
2.เขียนเค้าโครงของโครงงาน
3.ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาชีพสำคัญในอำเภอป่าบอน
4.ปฏิบัติโครงงาน
5.สรุปผล
6.นำเสนอโครงงาน
-วิธีการกรีดยางเเละเก็บน้ำยาง
การกรีดยางที่เหมาะสม มี5 วิธี คือ
1.กรีดครึ่งลำต้นวันเว้นสองวัน
2.กรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน
3. กรีดครึ่งลำต้นสองวันเว้นหนึ่งวัน
4. กรีดหนึ่งในสามของลำต้นสองวันเว้นวัน
5.กรีดหนึ่งในสามของลำต้นวันเว้นวันควบคู่กับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง ความเข้มข้น 2.5 เปอร์เซ็นต์
        โดยระบบกรีดเหล่านี้ ให้ผลผลิตต่อครั้งกรีดดี ความสิ้นเปลืองเปลือกต่อปีน้อย เปลือกงอกใหม่หนาพอเมื่อกลับมากรีดใหม่ได้ ปริมาณเนื้อยางแห้งดี และต้นยางมีอาการเปลือกแห้งน้อย
        เมื่อกรีดยางแล้วน้ำยางก็จะไหลไปตามรอยที่ทำไว้ผ่านลิ้นรองน้ำยางและไหลลงถ้วยรองรับน้ำยางในที่สุด ภายหลังจากกรีดยางไปแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนมากน้ำยางก็จะหยุดไหลก็จะเริ่มเก็บน้ำยางได้ ซึ่งผู้เก็บน้ำยางโดยปกติจะเป็นคนเดียวกับคนกรีดยาง จะถือถังหูหิ้วหรือหาบปีบไปเก็บน้ำยาง เก็บน้ำยางในถ้วยแล้วเทลงไปในถังหรือปีบที่ถือ หลังเทน้ำยางจากถ้วยก็จะใช้ไม้ปาดน้ำยาง กวาดน้ำยางออกจากถ้วยให้หมด แล้วนำถ้วยไปเก็บคว่ำไว้บนห่วงลวดที่ใช้ตาด้วย เพื่อไม่ให้ถ้วยสกปรก และป้องกันฝุ่นละอองตกลงไปในถ้วย น้ำยางที่เก็บได้จะถูกนำมารวบรวม แล้วลำเลียงไปส่งยังโรงงานทำยางแผ่นอีกต่อหนึ่ง สำหรับสวนขนาดใหญ่ แต่หากเป็นสวนขนาดเล็กก็จะหาบหรือหิ้วไปทำแผ่นที่บ้าน
โปรเเกรมที่ใช้
-blogger.com
-google.com
-vivavideo
                                        การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง




จากการสอบถามเพิ่มเติม การทำสวนยางพาราเป็นอาชีพของคุณ กานดา ชุมชู มีพื้นที่การปลูกยาง
ประมาณ 15 ไร่ เป็นอาชีพที่ทำรายได้ให้แก่ ครอบครัวของคุณกานดาได้เป็นอย่างดี(ในบางช่วง)
ไม่แพ้อาชีพอื่น และจากการสอบถามก็จะรู้ได้เลยว่า กว่าที่จะได้กรีดยางเพื่อที่จะนำเอาน้ำยางนั้น
ไปขาย ก็ต้องลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งแรงกาย ทรัพย์สิน และ ต้องใช้เวลานานประมาณ 6 – 7 ปี จึงจะได้ผลตอบแทน ในช่วงระยะเริ่มต้น จะมีแต่การลงทุนไม่ว่าจะเป็น การปลูก การดูแลบำรุงรักษา การใส่ปุ๋ยการกำจัดวัชพืช ตลอดจนการระวังไม่ให้ต้นยางนั้นขาดน้ำในฤดูแล้ง
              ในระหว่าง การปลูกยางใหม่ๆก็จะต้องคอยดูแลใส่ปุ๋ยถางหญ้าบริเวณ โคนต้นยาง ไม่ให้มีวัชพืช และตัดแต่งกิ่งยาง เป็นงานที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อต้นยางโตได้ขนาดพอจะกรีดเอาน้ำยาง ได้แล้ว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-7 ปี เเล้วก็จะทำการเปิดหน้ายางเพื่อที่จะกรีดเอาน้ำยาง
               การเปิดหน้ายางและกรีดยางต้องอาสัยความสามารถและ ความชำนาญเป็นพิเศษ ไม่งั้นคมมีด จะบาดลึก ไปในต้นยาง หรือถ้ากรีดตื้นเกินไป จะทำให้ได้น้ำยางไม่ได้เต็มที่ และเมื่อกรีดได้น้ำยางมาก ก็จะนำน้ำยางไปขายให้แก่ผู้รับซื้อ จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเปอร์เซนต์ของน้ำยางของเราว่ามีความเข้มข้นมากแค่ไหน และยังสามารถทำเป็นแผ่นขายได้อีก คุนกานดายังบอกอีกว่า ยังมีสิ่งที่สามารถขายได้อีกจากต้นยาง นั้นก็คือ น้ำยางที่ติดกับโป๋ยาง หรือที่เรียกว่า ขี้ยาง ตอนนี้บอกว่ามีการรับซื้อที่ราคาประมาณ 40 บาทต่อ 1 กิโลกรัม แต่เราต้องไปลอกเอา  และยังบอกอีกว่า เมื่อเรากรีดไปได้สักพัก เราก็ต้องเอายาที่ใช้ทาหน้ายาง ทาที่หน้ายางเพื่อไม่ให้ยางขึ้นลา หรือต้นยางตาย และมีการใส่ปุ๋ยยางปีละ 1 – 2 ครั้ง
              ระยะการทำงานของคุณกานดา คือ กรีด 2 วัน หยุด 1 วัน หรือช่วงไหนที่มีฝนตกมากๆ ทำให้กรีดยางไม่ได้ ก็จะกรีด 3 วัน หยุด 1 วัน และทำอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะถึงฤดู ปิดหน้ายาง คือตั้งแต่
เดือน กุมภาพันธ์ ถึง เมษายน จึงจะมีการกีดยางอีกครั้ง









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น